25 กิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในกรุงเทพ

กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดที่สุดของโลก ถึงกระนั้น ก็เป็นเมืองที่น่าหลงใหลและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย เหมือนกับเมืองหลวงของหลาย ๆ ประเทศ กรุงเทพเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล และมีอะไรให้ทำอยู่เสมอ ด้วยประชากรที่อาศัยอยู่กว่าแปดล้านคน ไม่ว่าจะเป็นคนจนสุดดินหรือคนรวยล้นฟ้า ต่างก็สร้างความรู้สึกที่เป็นบ้านในแบบฉบับของตัวเอง 

มาดูกันว่าเวลาต่างชาติมาเที่ยวกรุงเพ เค้านิยมทำอะไรกันบ้าง 

1. เยี่ยมชมพระพุทธไสยาสที่วัดโพธิ์

วัดโพธิ์ถือเป็นหนึ่งในลิสต์ของนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ถ้ามากรุงเพทแล้วจะต้องมาเยี่ยมชมให้ได้ซักครั้ง โดยพระพุทธไสยาสนั้นมีความสูงถึง 15 เมตร และยาว 46 เมตร พระบาททั้งสองมีความยาวกว่า 5 เมตร พระพุทธรูปถูกปกคลุมด้วยแผ่นทองคำและดูน่าทึ่งมากเมื่อเข้าไปยืนใกล้ ๆ นอกจากการมาสักการะบูชาพระพุทธรูปแล้ววัดโพธิ์ยังขึ้นชื่อเรื่องนวดแผนไทยโบราณที่โด่งดังไปทั่วโลก 

2. เยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง

พระบรมมหาราชวังเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในกรุงเทพ พูดได้เลยว่าถ้าใครยังไม่เคยได้มาเยี่ยมชมก็จะถือว่ามาไม่ถึงกรุงเทพ พระบรมมหาราชวังในสมัยก่อนนั้นเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในปัจจุบัน พระบรมมหาราชวังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ตามพระราชประเพณี การเดินเยี่ยมชมในพระราชวังอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงเนื่องจากมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 214,000 ตารางเมตร ระวังกลุ่มมิชฉาชีพที่อยู่นอกวังให้ดีเพราะจะมีกลุ่มที่คอยฉวยโอกาสกับนักท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวให้จ่ายค่าเข้าที่ประตูก่อนจะเข้าวังเท่านั้น 

3. ขึ้นรถไฟฟ้า 

วิธีที่จะไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพได้รวดเร็วและไม่ร้อน คือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพราะคุณสามารถขึ้นลงได้หลายสถานีที่เชื่อมต่อกันไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องรอรถติด แถมยังได้ชมวิวเมืองสบาย ๆ นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยบัทเจตมักจะใช้รถไฟฟ้าเพราะเดินทางไปได้หลายที่ด้วยตั๋วแบบวันเดียว

4.ตลาดนัดสวนจตุจักร 

คนรักช้อปไม่ควรพลาด กับตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยร้านค้ากว่า 8,000 ร้าน บนพื้นที่กว่า 27 เอเคอร์ เปิดให้นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมาจับจ่ายซื้อของกันในวันเสาร์และอาทิตย์ แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 200,000 คน เพราะคุณสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ แถมราคาต่อรองกันได้ แต่ถ้าใครไปกับเพื่อนก็นัดกันดี ๆ เพราะเดินทีไรก็หลงทุกที

5. นั่งเรือเล่นบนแม่น้ำเจ้าพระยา 

บางคนอาจเปรียบกรุงเทพเป็นเหมือน เวนิชตะวันออก เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านทั่วกรุงเทพ และคอยเติมเต็มคลองเล็ก ๆ รอบตัวเมือง แม่น้ำสายนี้เป็นเหมือนแม่น้ำสายชีวิตของคนกรุงในสมัยก่อน จนถึงทุกวันนี้ ผู้คนกว่า 50,000 คนก็ยังคงใช้แม่น้ำสายนี้ในการเดินทางไปทำงานทุกวัน 

การนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยานั้นเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะคุณจะเห็นคอนโดสูงลิ่วและโรงแรมห้าดาวบนฝั่งแม่น้ำด้านหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งจะสะท้อนภาพวิถีชีวิตคนท้องถิ่น บ้านไม้เก่า ๆ โทรม ๆ ที่อยู่มาหลายสิบปี แถมคุณยังมีท่าเทียบเรือที่คุณสามารถขึ้นลงได้ตามต้องการ 

6. ช้อปปิ้งที่สยามพารากอน

ใครอยากช้อปแบบไฮโซหน่อยก็ต้องไปที่สยามพารากอน ที่มีร้านแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกมาเปิดให้บริการ แถมยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, โรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่, ร้านอาหารที่มีให้เลือกกินได้ตลอดชีวิต นอกจากร้านค้าชื่อดังกว่า 250 ร้าน ภายในห้างยังมีโชว์รูมรถแบรนด์ดังอย่าง Ferrari และ Lamborghini สำหรับคนกระเป๋าหนักมาที่เดียวก็ได้ครบที่ต้องการ 

7. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานกรุงเทพ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงเทพเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งประดิษฐ์และศิลปะไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงประวัติศาสตร์ชาติไทยและประณีตศิลป์สืบสมัย  มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายให้ชมในพิพิธภัณฑ์เช่นอาวุธจีน อัญมณีล้ำค่า หุ่นกระบอก เสื้อผ้า และสิ่งทอ และหน้ากากโขน แถมในวันพฤหัสบดี ยังมีทัวร์ภาษาอังกฤษในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

8. นวดไทย

การนวดไทยนั้นโด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ร้านสปาในต่างประเทศก็ยังมีบริการนวดไทย แต่ไม่ว่าคุณจะเคยไปนวดไทยที่ไหนมา ก็คงจะเทียบไม่ได้กับการมานวดที่ถิ่นกำเนิดอย่างประเทศไทย ประสบการณ์การนวดแผนไทยจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ในขณะที่ทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกถึงความสมดุล ร้านนวดในกรุงเทพนั้นหาได้ง่าย เพราะมีมากมายตามท้องถนน แต่จะดีกว่าถ้าคุณค้นหาข้อมูลของร้านมาก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปใช้บริการ 

9. นานาพลาซ่า (สุขุมวิทซอย 4)

ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้านานา นานาพลาซ่าเป็นแหล่งรวม อะโกโก้บาร์ และบาร์นั่งดื่มมากมาย ที่เต็มไปด้วยผู้หญิง ที่อาจเข้ามาเสนอที่จะใช้เวลายามค่ำคืนกับคุณเพื่อแลกกับค่าตัว แม้ว่าคุณจะไม่มีความตั้งใจที่จะรับข้อเสนอใด ๆ ของผู้หญิง แต่ก็คุ้มค่าที่จะใช้เวลานั่งดื่มและดูผู้คนเดินผ่านไปมา

10. เดินเล่นในสวนลุมพินี

ด้วยพื้นที่กว่า 500,000 ตร. ม. ของสวยลุมพินี คุณแทบจะไม่รู้สึกถึงความวุ่นวายของเมืองด้านนอก ชื่อของสวนมาจากพระพุทธเจ้าที่เกิดในเนปาล มันไม่แปลกเลยถ้าคุณจะเห็นคนรุ่นปู่มาฝึก Tai chi หรือคู่รักมานั่งเล่นกันริมน้ำ ในวันหยุดสุดสัปดาห์อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาทำกิจกรรมหลากหลายประเภท ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีในการไปเที่ยวคือเช้าตรู่หรือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

11. หาอะไรกินที่เยาวราช

ไม่ว่าจะที่ประเทศไหน ก็มักจะมี Chinatown เป็นของตัวเอง ซึ่งที่กรุงเทพบ้านเราก็คือ เยาวราช นั่นเอง สำหรับคนที่ชอบอาหารจีนแท้ดั้งเดิมหรืออยากลองทานอาหารแปลก ๆ ก็จะพลาดไม่ได้ที่จะไปแวะทานที่เยาวราช ถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารจีนทั้งสองข้างทาง การตกแต่งร้านสไตล์คนจีน ป้ายร้านสีแดงโดดเด่น เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ที่เมืองจีนยังไงยังงั้น นอกจากอาหารจีนแล้ว เยาวราชยังเป็นแหล่งขายทองคำที่มีร้านทองใหญ่ ๆ ให้เลือกซื้อได้ตามต้องการ

12. หาอะไรดื่มที่สกายบาร์

การหาบาร์นั่งดื่มในกรุงเทพไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ที่ไหนจะสู้สกายบาร์ที่สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพได้แบบ 360 องศา อย่าง Vertigo และ Moon bar บนชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรี หรือ Octave bar ที่โรงแรมแมริออต สุขุมวิท ก็ถือเป็นอีกจุดที่สามารถไปนั่งจิบคอกเทลรอชมพระอาทิตย์ตกได้แบบชิล ๆ แนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้าและเช็คกับทางโรงแรมสำหรับเดรสโค้ด

13. แวะทานอาหารข้างทาง 

เพราะคนไทยนิยมทานอาหารนอกบ้านมากกว่าทำเองที่บ้าน ทำให้มีร้านอาหารข้างทางอยู่ทั่วทุกมุมถนน สำหรับคนต่างชาตินั้นโดยเฉพาะในโซนยุโรปถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะที่บ้านเค้าไม่ได้มีร้านอาหารข้างทางเหมือนบ้านเราให้เห็นมากนัก แน่นอนว่าอาหารจานเด่นที่ต่างชาติรู้จักคือผัดไทย แต่ถ้าได้ลองข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง บ้านเราแล้วรับรองว่าติดใจทุกราย

 14. นั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้าง 

เมื่อถนนในกรุงเทพมีการจราจรคับคั่ง การเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งมักจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ท้าทาย สำหรับสถานที่ส่วนใหญ่คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ แต่สำหรับบางที่ก็ยังต้องเดินไกล ดังนั้นการนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดี และได้ฟิลที่แตกต่างจากการนั่งแท็กซี่ทั่วไปหรือรถตุ๊กตุ๊ก คนต่างชาติส่วนใหญ่อาจจะกลัวการซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซต์ แต่ก็มีบางคนที่ถือว่านี่เป็นประสบการณ์ที่หาที่บ้านไม่ได้ และเมื่อมากรุงเทพแล้วก็ต้องลองนั่งให้ได้ซักครั้ง 

15. ชมมวยไทย

ประเทศไทยเต็มไปด้วยสนามมวย แต่การแข่งขันการชกมวยที่ใหญ่ที่สุดจัดขึ้นในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นที่สนามกีฬาลุมพินีหรือราชดำเนิน มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติของประเทศไทยและมีการพูดถึงกันทั่วโลกตัวเลขการชมบนจอทีวีเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับรายการใด ๆ ที่ออกอากาศ การได้มาสัมผัสบรรยากาศการชกมวยและเห็นคนไทยเชียร์มวยในสนาม ถือเป็นหนึ่งประสบการณ์ที่จะพลาดไม่ได้ 

16. เยี่ยมชมสวนสัตว์ดุสิต

เทศกาลลอยกระทงจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี นักท่องเที่ยวที่วางแผนมาเที่ยวในช่วงเดือนนี้จะตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นขนบธรรมเนียมประเพณีไทย วัดทั่วเมืองจะมีการจัดงานและบางที่อาจมีการแสดงบนเวที ไฟประดับที่ถูกตกแต่งไปทั่วเมือง ทำให้กรุงเทพส่องสว่างมากเป็นพิเศษ กระทงทำมือสวยงามวางขายตามท้องถนน โรงแรมบางที่อาจมีการจุดพลุขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ใกล้กับสระน้ำหรือแม่น้ำเจ้าพระยา เช่นเดียวกันกับที่เชียงใหม่ เทศกาลลอยกระทงถือเป็นประเพณีที่สวยงามที่สุดเลยก็ว่าได้

17. เล่นสงกรานต์

สงกรานต์เป็นเทศกาลปีใหม่ไทย ที่เฉลิมฉลองระหว่างวันที่ 13 และ 15 เมษายน ของทุกปี และไม่มีใครหนีรอดจากการเปียกไปได้ ในศาสนาพุทธมีความเชื่อกันว่าโดยการประพรมน้ำ ความบาปและความโชคร้ายของคุณจะถูกชะล้างออกไป จากการประพรมน้ำในสมัยก่อน ได้กลายเป็นการต่อสู้โดยใช้น้ำแบบเต็มรูปแบบที่คนทั้งประเทศมีส่วนร่วมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปีดฉีดน้ำขนาดใหญ่หรือขันสาดน้ำ ฝูงชนจำนวนมากในกรุงเทพจะรวมตัวกันในจุดที่มีการจัดไว้เฉพาะสำหรับเทศกาลนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะวางแผนเพื่อมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงนี้เพราะไม่มีเทศกาลไหนที่จะเปลี่ยนทั้งเมืองให้กลายเป็นปาตี้ได้เหมือนสงกรานต์ 

18. เที่ยวกลางคืน 

กรุงเทพมีชื่อเสียงในด้านสถานบันเทิงยามค่ำคืน และเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะไนท์คลับที่มีดีเจชื่อดังมาเปิดเพลง, สกายบาร์มุม 360 องศา, ค็อกเทลบาร์สุดฮิป, ซอยคาวบอยและพัฒน์พงศ์ซึ่งเป็นธีมของผู้ใหญ่, เอกมัย ทองหล่อ ที่เป็นที่นิยมทั้งคนไทยและต่างชาติ และคลับมากมายที่มีให้เลือกตามสไตล์ที่ชอบ

19. ถนนข้าวสาร

ถนนข้าวสารถือเป็นศูนย์รวมของแบ็คแพ็คเกอร์ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบบัทเจต นอกจากจะมีห้องพักที่มีราคาถูกหรือโฮสเทลที่สามารถแชร์ห้องกันได้หลายคน ไฮไลท์ของถนนข้าวสารก็คือผับบาร์ที่สามารถปาตี้กันได้บนถนนสองข้างทาง รถเข็นขายผัดไท แมลงทอดและแมลงป่อง ซึ่งถือซีนที่หาที่ไหนไม่ได้ในกรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านนวด และสปา ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เหนื่อยจากการเดินทาง ถนนข้าวสารไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยว แต่คนไทยเองก็ชอบการไปปาตี้บนถนนข้าวสารด้วยเช่นกัน ดังนั้น สำหรับคนที่ชอบพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกับคนจากทุกมุมโลก 

20. ชมการแสดงหุ่นละคร

สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนในกรุงเทพฯ คือการชมการแสดงหุ่นละคร ซึ่งต้องใช้คนถึงสามคนในการควบคุมหุ่นแต่ละตัว หุ่นละครเล่านิทานพื้นบ้านคลาสสิก ในขณะที่วงออเคสตราบรรเลงดนตรีเพื่อเพิ่มบรรยากาศ การออกแบบฉาก อุปกรณ์ประกอบฉากที่เป็นงานฝีมือ พร้อมกับเทคนิคของศิลปิน ทำให้การแสดงออกมาได้อย่างงดงาม

21. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้าน จิม ทอมป์สัน

ผ้าไหมไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และไม่มีที่ไหนที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เบื้องหลังงานฝีมือนี้ได้ดีเท่าพิพิธภัณฑ์บ้าน จิม ทอมป์สัน ในขณะที่คุณเดินไปรอบ ๆ บ้าน คุณจะไม่เพียง แต่เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของ บริษัท ผ้าไหมไทย แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของจิมทอมป์สันเอง ตัวบ้านนั้นมีความซับซ้อนและสวยงามมาก ด้วยโครงสร้างไม้สักหกแบบที่สร้างได้อย่างสมบูรณ์

22. เยี่ยมชมวัดอรุณ

มีวัดทางพระพุทธศาสนามากกว่า 31,000 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย แต่วัดอรุณเป็น 1 ในวัดอันดับต้นๆในรายการที่จะพลาดไม่ได้ วัดแห่งนี้ตั้งชื่อตาม Aruna เทพแห่งรุ่งอรุณ วัดที่สวยงามแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 79 เมตร หอคอยถูกปกคลุมด้วยกระเบื้องเซรามิกและพอร์ซเลนสี และจะมองเห็นเป็นประกายได้ชัดเจนเมื่อถูกกับแสง คุณสามารถเดินขึ้นไปชมความสวยงามของหอคอยนี้ได้อย่างใกล้ชิด บนความเงียบสงบและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถมองเห็นได้ในมุมกว้างเมื่อขึ้นไปบนหอคอย 

23. ลิ้มรสทุเรียน

ถึงแม้ว่าทุเรียนจะมีกลิ่นที่ไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ทุเรียนเป็นที่รู้จักกันในนามราชาแห่งผลไม้ ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวที่อาจทำให้ใครหลายๆคนรังเกียจ จึงมีการติดป้ายห้ามนำทุเรียนเข้าไปในที่สาธารณะ เช่นบนรถไฟฟ้า รถปรับอากาศสาธารณะ หรือแม้กระทั่งบนแท็กซี่  ทุเรียนมีความแตกต่างจากผลไม้ประเภทอื่น ด้วยรูปร่างที่มีเปลือกเป็นหนามแข็ง ดูเหมือนจะเอามาเป็นอาวุธได้เลยทีเดียว แต่ภายในเมื่อปลอกเปลือกออกมา จะมีลักษณะเหมือนเนื้อเนยบาง ๆ สีเหลือง แน่นอนว่านักท่องเที่ยวมักจะไม่ชอบกลิ่นของมัน แต่ก็ยังอยากลิ้มรสชาติของมันซักครั้ง 

24. เยี่ยมชมศาลท้าวมหาพรหม

ศาลพระพรหมเอราวัณเป็นศาลเจ้าพราหมณ์ ตั้งอยู่ในบริเวณที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจนได้รับความนิยมมากกว่าวัดหลายแห่ง ศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นในปี 1950 เพราะคนงานก่อสร้างในโรงแรมใกล้เคียงมีความเชื่อเรื่องโชคลางเกินกว่าที่จะทำงานต่อไปได้ เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าวิญญาณที่ดินไม่มีความสุข และก่อให้เกิดปัญหาในการก่อสร้าง ศาลเจ้านั้นเป็นเทพเจ้าองค์พรหมสี่องค์และผู้คนแห่กันไปที่นั่นเพื่อขอพรและวางพวงมาลัยดอกไม้ด้วยความหวังว่าความปรารถนาของพวกเขาจะเป็นจริง

25. เยี่ยมชมพระที่นั่งวิมานเมฆ

พระที่นั่งวิมานเมฆเป็นอาคารไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อก่อนเคยเป็นที่พำนักของราชวงศ์ที่ใช้เพียงไม่กี่ปีก่อนที่จะถูกทิ้งว่างเปล่ามานานหลายทศวรรษ คฤหาสน์เองกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นที่ตั้งของสิ่งประดิษฐ์โบราณมากมาย แม้กระทั่งภาพถ่ายบางรูปที่ได้รับการบริจาคจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อคุณอยู่นอกบริเวณอาคารคุณอาจถ่ายรูปได้มากเท่าที่คุณต้องการ แต่คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำกล้องของคุณเข้าไปในพิพิธภัณฑ์และต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย

Facebook
Twitter
WhatsApp
LinkedIn
Email

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ